ร้านอาหารญี่ปุ่น

5 ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดเด็ด ย่านทองหล่อ ทำไมไม่ลองไปเดินเล่นหาของอร่อยๆ ในทองหล่อ ย่านที่มีชีวิตชีวาด้วยบรรยากาศที่หลากหลายและทำเลใจกลางเมืองที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นมากมาย ร้านอาหารสไตล์อิซากายะที่มีชีวิตชีวาและสนุกสนาน ที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับยากินิกุและยากินิกุแสนอร่อย คุณยังสามารถนั่งกินราเมนจนดึกดื่นได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นซุปที่พบในร้านอาหารญี่ปุ่นเกือบทุกแห่ง

ครั้งนี้ KIJI จะมาแนะนำ 20 ร้านอาหารญี่ปุ่นแนะนำในย่านทองหล่อ คุณสามารถเลือกประเภทและสไตล์ต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของคุณ ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายหากคุณไม่แน่ใจว่าจะทิ้งลูกน้อยไว้ที่ไหนในชั่วข้ามคืน เลือกร้านเดียวแล้วไปได้เลย!

 

1. Aoringo (อาโอรินโกะ)

Aoringo” ร้านข้าวแกงกะหรี่โฮมเมดที่ชื่อเสียงโด่งดังในบ้านเราพอสมควร เรื่องความอร่อยในแบบสไตล์ญี่ปุ่นคงไม่ต้องพูดมาก ด้วยการันตีโดยสมาคมแกงกะหรี่แห่งประเทศญี่ปุ่นว่าร้านนี้แหละอร่อยที่สุดแล้ว เราแนะนำสาขา Nihonmura ที่ซอยทองหล่อ 13 ด้วยการตกแต่งที่ผสมผสานสไตล์ลอฟท์เข้ากับบรรยากาศในแบบคาเฟ่ญี่ปุ่น ดูโปร่งสบายตาด้วยแสงธรรมชาติผ่านกระจกใสที่ติดตั้งอยู่ล้อมร้าน ซอสแกงกะหรี่ของที่นี่เป็นแกงกะหรี่ไก่ที่มีความหอม เข้นข้น แต่ไม่ค่อยเผ็ดมากนัก ด้วยส่วนผสมจากเครื่องเทศชนิดต่างๆ และผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้หลักที่เป็นที่มาของโลโก้ร้านอย่างแอปเปิ้ลเขียว (Aoringo แปลว่า แอปเปิ้ลเขียว)

Aoringo

Curry rice

Deep fried fillet Katsu stuffed with mozzarella cheese Curry rice (330 บาท)  ข้าวแกงกะหรี่หน้าหมูทอดมอซซารีล่าชีสบวกด้วยออมเล็ตลาวา ปูด้วยไข่ออมเล็ตที่วางแผ่มาเต็มๆ จาน พร้อมด้วยหมูทอดสอดไส้มอซซารีล่าชีสชิ้นใหญ่เกินฝ่ามือ ทั้งซอสแกงกะหรี่ ไข่ออมเล็ต และชีส ช่วยกันเสริมความเนียนนุ่ม หอมอบอวลเต็มๆ ปาก ส่วนใครเบื่อหมูทอด อยากลองท็อปปิ้งอื่นๆ บอกเลยร้านนี้มีให้เลือกกว่า 30 ชนิด แถมแต่ละจานยังเพิ่มข้าวฟรี เสิร์ฟพร้อมสลัดผักและพุดดิ้งกาแฟ รับประกันว่าอิ่มท้องแน่นอน

สาขา Nihonmura
Tel: 02-015-3613
Address: ชั้น 2 โครงการ Nihonmura ซ.ทองหล่อ 13 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 11:00-14:30 น., 17:00-21:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Aoringo Nihonmura Thonglor

2. Shugetsu Ramen (ชูเก็ทสึ ราเมน)

ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ กับราเมนต้นตำรับรางวัล Michelin จากจังหวัดเอฮิเมะ จากร้าน Shugetsu Ramen ราเมนน้องใหม่รสตำรับจากจังหวัดเอฮิเมะ ขอบอกว่าความอร่อยของร้านนี้เขาไม่ธรรมดา เพราะนี่คือเจ้าของรางวัล Hong Kong Michelin Guide ถึง 6 ปีซ้อนเลยทีเดียว! ด้วยบรรยากาศสบายๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยโทนสีน้ำตาลอ่อนๆ จากงานไม้ สร้างความสว่างด้วยแสงธรรมชาติผ่านกระจกใสบานใหญ่ (ใครชอบถ่ายรูปก่อนกินแนะนำให้นั่งโต๊ะติดกระจก ถ่ายรูปอาหารออกมาสวยมาก) แถมด้วยความสะอาดสะอ้านของร้านที่เข้าขั้นยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มกินเลยทีเดียว

Shugetsu Ramen (195 บาท)  ราเมนเส้นสดสูตรต้นตำรับที่ได้ความหอมกลมกล่อมจากน้ำซุปเบสไก่ที่เคี่ยวนานถึง 6 ชั่วโมง และซอสโชยุที่หมักในถังไม้โบราณโดยวิธีการธรรมชาติแบบดั้งเดิมนานถึง 18 เดือน! ไม่ลองไม่ได้แล้ว

Tel: 080-303-9999
Address: ชั้น 2 The 49 Terrace ซ.สุขุมวิท 49 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: จ.-ศ. 11:00-15:00 น., 17:00-23:00 น.
ส.-อา. 11:30-23:00 น.
Holiday: X
Facebook URL: Shugetsu Ramen – ชูเก็ทสึ ราเมน

 

3. Honmono SuShi (ฮอนโมโนะ ซูชิ)

ปรุงสดจานต่อจานจากฝีมือของเชฟกระทะเหล็ก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาดร้าน Honmono SuShi ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่เปิดให้บริการอีกทั้งสร้างความประทับใจผ่านมื้ออาหารให้กับชาวกรุงฯมานานกว่า 8 ปี โดยมีหัวหอกสำคัญอย่าง เชฟกระทะเหล็กบุญธรรมและเชฟบัณฑูรกูรูอาหารญี่ปุ่นที่มาคอยสร้างสรรค์เมนูรวมถึงควบคุมคุณภาพวัตถุดิบกันแบบจานต่อจาน

Honmono suhi

Honmono Special 8 Kan (2,600 บาท) โดยจานนี้เชฟอยากให้เริ่มจากปลาเนื้อขาวเช่นฮามาจิก่อนแล้วคำท้ายๆ ค่อยเป็นปลาที่มีไขมันแทรกอย่างโอโทโร่หรือแซลมอน และแม้ว่า 8 คำจะทำหน้าที่ส่งความสุขให้กับผู้กินได้อย่างไม่มีบกพร่อง แต่คำที่ว้าวจนอยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสประสบการณ์นี้เหมือนกับคิจิก็คือซูชิหน้าปลามาไดที่ท็อปมาด้วยเอ็นกาวะเบิร์นไฟ มะนาวฝานบาง เกลือ และยูซุ เอาเป็นว่าใครที่ไปลองจะต้องรู้สึกว้าวเหมือนกันกับเรา

Foie Gras Avocado Rolls (550 บาท) ด้วยรสชาติมันๆ ของอะโวคาโดที่ลงตัวกับฟัวกราส์และซอสหวาน บวกกับเทกซ์เจอร์สนุกๆ ระหว่างเคี้ยวที่เชฟเสริมเข้ามาอย่างโทบิโกะและอิคุระ เอาเป็นว่าจานนี้กินง่ายเคี้ยวเพลินแน่นอน

สาขา ทองหล่อ
Tel: 02-185-1447
Address: 19 ซ.ทองหล่อ 23 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: 11:30-14:00 น., 17:30-22:30 น.
Holiday: X
Facebook URL: Honmono SuShi

4. Menya Yamato (เมนยะ ยามาโตะ)

ราเมนแห้งสไตล์นาโกย่าเจ้าเดียวในไทย คนไหนที่ตั้งใจไว้ว่าชีวิตนี้ต้องตระเวนชิมราเมนให้ครบตระกูล อยากจะบอกว่าข้างๆ กันกับสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อมี Menya Yamato ร้านราเมนที่เน้นเสิร์ฟมาเซโซบะสูตรนาโกย่ารสชาติจัดจ้าน ตั้งประจำการให้ชาวราเมนเลิฟเวอร์ได้แวะมาเก็บแต้มกันแบบสะดวกๆ ด้วยความที่เป็นร้านเฉพาะทางเรื่องมาเซโซบะ ทั้งมีสาขาแม่ที่นาโกย่าและนานาสาขาที่กระจายความอร่อยอยู่ ณ ต่างแดน (สำหรับบ้านเราเองก็เปิดให้บริการมากว่า 2 ขวบปี) มาเซโซบะของที่นี่จึงเป็นเมนูที่เรียกได้ว่าฮอตฮิตติดลมบน นิยมจนเป็นมาเซโซบะอันดับ 1 ในนาโกย่า และถูกปากชนิดที่ว่าใครมาก็ต้องสั่ง

ราเมน

Menya Yamato 

Mazesoba “Yamato Style” (Mini 160 บาท / Medium 200 บาท / Large 275 บาท) โดยทางร้านเสิร์ฟมาในแบบแห้งที่มองแว่บแรกก็รู้ว่าเมนูนี้ต้องมีซี๊ดปากชัวร์ๆ ซึ่งในชามประกอบไปด้วยเครื่องเคราที่ก็มีทั้งราเมนเส้นอวบ, หมูสับผัดพริกญี่ปุ่นรสชาติเผ็ดร้อน, กุยช่ายซอย, ต้นหอมญี่ปุ่น, กระเทียมสับ, ผงปลาแห้ง, สาหร่าย และไข่แดง ซึ่งก่อนจะคีบแล้วม้วนเข้าปากแนะนำให้คนส่วนผสมทุกอย่างก่อนมันถึงจะเป๊ะ หรือถ้ายังไม่ถึงใจพอก็สามารถ Add-on น้ำส้มสายชู (Konbusu) สูตรของทางร้านเพิ่มความจัดจ้านได้เลย

ราเมน

Yamato Tsukemen (240 บาท) ทางร้านจัดมาแบบข้นเต็มเครื่องทว่ารสชาติถือว่ากลมกล่อม ด้านเส้นก็นุ่มหนึบจิกซอสได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมท็อปปิ้งที่ทางร้านตั้งใจให้กินคู่กันอย่างหมูชาชู, หน่อไม้ญี่ปุ่นปรุงรส, ไข่ต้มยางมะตูมหมักซอส, ต้นหอมญี่ปุ่น สาหร่าย และปิดท้ายที่หมูสับปรุงรสเผ็ด ตัวชูโรงของ Menya Yamato

Tel: 02-083-8526
Address: 1033 ถ.สุขุมวิท (ข้างๆ สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ)
Opening Hours: 11:30-15:00 น., 17:30-23:30 น.
Holiday: X
Facebook URL:  Menya Yamato Bkk

4. Sumi Tei Yakiniku (สุมิ เต ยากินิกุ)

Sumi Tei Yakiniku ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น เมนูส่วนใหญ่ของร้านใช้เนื้อวากิวเกรด A5 แน่นด้วยคุณภาพของเนื้อวากิวญี่ปุ่นขนานแท้ ระดับพรีเมียม สายพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ (Kuroge) จากเมืองคาโกชิม่า ทางร้านดูแลคุณภาพของเนื้อตั้งแต่ต้นสายยันปลายสาย รวมถึงตระเวนหาเนื้อวัวสายพันธุ์ไทยที่มีเกรดที่ดีที่สุดในประเทศด้วยตัวเองอีกด้วย ด้วยความพิถีพิถันสุดๆ ในการคัดสรรเนื้อโดยเชฟคำปุ่น หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านที่มีประสบการณ์เรื่องเนื้อมากกว่า 10 ปี และคิดเมนูอาหารใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะมีเมนูเนื้อแบบปิ้งย่างที่ให้ลิ้มลองกันแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูข้าวที่เชฟคำปุ่นปรับสูตรจนได้รสที่อร่อย กลมกล่อมถูกปากคนไทย

Tokusen Bara (1,580 บาท) เนื้อวากิว A5 ส่วนท้องด้านใน เสิร์ฟมาพร้อมกับใบรับรองคุณภาพเนื้อ ที่บอกเราตั้งแต่สถานที่เลี้ยงวัว ชื่อคนเลี้ยง และบริษัทจัดส่ง มั่นใจได้เลยว่าจานนี้มาตรฐานเกรดพรีเมียมจริงๆ ไม่ต้องผ่านการปรุงมากมายก็อร่อย แต่หากอยากลองคู่กับน้ำจิ้ม ทางร้านก็มีสูตรพิเศษ 2 สูตร ให้เลือกทั้งสูตรหอมเนยและสูตรเข้มข้น แต่บอกเลยไม่ว่าสูตรไหนก็อร่อย

Imperial Wagyu Hayashi Omu Rice (380 บาท)  ข้าวผัดซอสฮายาชิกับเนื้อวากิว A5  และโปะไข่ข้นปิดท้าย ทางร้านใช้ซอสฮายาชิสูตรกลมกล่อมที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ นำมาผัดกับข้าวสวยญี่ปุ่นและเนื้อวากิวชิ้นหนา ก่อนราดด้วยซอสฮายาชิสูตรลับอีกครั้ง จานนี้เด็ดที่เนื้อ ดีที่ซอสจริงๆ

Imperial Wagyu Hayashi Kare Rice (340 บาท) ข้าวแกงกระหรี่เนื้อวากิว A5 ความพิเศษอยู่ที่การเคี่ยวซุปเนื้อวากิวจนนุ่มและนำมาผสมกับซอสแกงกะหรี่สูตรเฉพาะของทางร้าน ทั้งผักชนิดต่างๆ และเนื้อวากิว A5 ที่เปื่อยนุ่มละลายในปาก ทำให้ได้รับรสสัมผัสของเนื้อที่ชัดเจนและเข้มข้น

Tel: 091-770-7747
Address: 323/3 โครงการ J-Avenue ซ.ทองหล่อ 13 ถ.สุขุมวิท
Opening Hours: จ.-ศ. 17:00-22.00 น.,
ส.-อา. 11:30-14:00 น., 17:00-22:00 น.
Holiday: X
Facebook URL:  Sumi Tei Yakiniku

 


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *